วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

หลอดไฟหน้าแสงสีขาว สวยแต่เสี่ยง?

 


ทำไมหลายคนถึงเลือกใช้หลอดไฟหน้า LED

หลอดไฟหน้า LED หรือหลอดแสงสีขาว กำลังได้รับความนิยมสูงในหมู่เจ้าของรถยุคใหม่ ด้วยคุณสมบัติที่ให้แสงสว่างจ้า สวยทันสมัย ประหยัดพลังงาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน

อย่างไรก็ตาม หลอดไฟประเภทนี้กลับมีข้อจำกัดที่คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศไม่ปกติ เช่น ฝนตกหนัก หรือมีหมอกลงหนา


จุดอ่อนที่หลายคนมองข้าม: แสงสีขาวไม่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ

แม้แสงสีขาวจะดูสว่างในสภาพปกติ แต่เมื่อมีฝนหรือหมอกลง แสงเหล่านี้จะสะท้อนกับละอองน้ำ ทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด คล้ายการใช้แฟลชถ่ายรูปในหมอก ผลลัพธ์คือการมองเห็นถนนลดลง และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการขับขี่ในยามค่ำคืนหรือบนถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอ


ทางออก: ผสมผสานแสงอย่างมีประสิทธิภาพ

ทางเลือกที่เหมาะสมคือการใช้หลอดไฟ LED แสงสีขาวควบคู่กับ:

  • ไฟตัดหมอกแสงสีเหลือง: เจาะทะลุหมอกและฝนได้ดี

  • ไฟสูงฮาโลเจนแสงเหลือง: ให้แสงกระจายกว้าง ไม่สะท้อนละอองน้ำ

การผสมผสานนี้จะช่วยให้คุณได้ทั้งความสว่าง ความสวย และความปลอดภัยในทุกสภาพถนน


หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้หลอดไฟหน้าแบบใดให้เหมาะกับการใช้งานจริง ทาง ประพันธ์อะไหล่ยนต์อ่างทอง มีบริการให้คำปรึกษาพร้อมช่างติดตั้งผู้เชี่ยวชาญ

ที่นี่มีครบทั้งหลอดไฟหน้า LED, ไฟตัดหมอก, หลอดฮาโลเจนคุณภาพสูง และบริการติดตั้งแบบมืออาชีพ เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: หลอดไฟ LED สีขาวปลอดภัยจริงหรือไม่?

A: ปลอดภัยในสภาพถนนปกติ แต่มีข้อจำกัดในฝน/หมอก ควรเสริมไฟสีเหลือง

Q: ทำไมไฟเหลืองถึงเหมาะกับฝนและหมอก?

A: แสงสีเหลืองมีความยาวคลื่นมากกว่า ไม่สะท้อนละอองน้ำ จึงทะลุฝน/หมอกได้ดีกว่า

Q: ติดตั้งไฟสองแบบต้องดัดแปลงอะไรไหม?

A: ถ้ารถคุณมีโคมแยกสูงต่ำอยู่แล้ว สามารถติดตั้งได้เลย โดยทางร้านมีอุปกรณ์และช่างดูแลให้ครบ

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โช้คแก็ส หรือ โช้คน้ำมัน เลือกแบบไหนดี


       ถ้าเป็นรถใช้งานทั่วไป  ไม่ได้  ขับซิ่ง  วิ่งเร็ว  เทรลโหด   ปรับโหลด   แล้วละก้อ  ให้ใช้โช้คแก็สกึ่งน้ำมัน หรือ บางที่ก็เรียกสั้นๆว่า โช้คแก็ส  ครับ เนื่องจากมีความนิ่มนวล และ การทรงตัวที่ดี เพราะ แก๊สไนโตรเจนภายในโช้คจะช่วยควบคุมไม่ให้มีฟองอากาศเกิดขึ้น


                             


ด้วยข้อดีดังกล่าว จึงทำให้ในปัจจุบัน รถส่วนใหญ่จะใช้โช้คแก็สกึ่งน้ำมันติดรถ เป็นมาตรฐานจากโรงงานเลย




        ส่วนรถกะบะที่ใช้งานบรรทุกหนัก  ขอแนะนำให้ใช้ โช้คน้ำมัน เนื่องจาก มีความยาวหลากหลาย ตามการเสริมแหนบ กระบอกใหญ่กว่า และหนืดเหมาะสมตามน้ำหนักของที่บรรทุก

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567

รถไม่ได้อุด EGR ต้องใช้น้ำมันเครื่องเกรด ?


                                                                    Picture from Copilot


EGR  เป็นระบบลดมลพิษท่อไอเสียและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ โดยนำควันไอเสียวนกลับมาใช้ในห้องเครื่อง ซึ่งจะทำให้เขม่าและคราบสกปรกสะสมในเครื่องยนต์มาก 




        เราขอแนะนำให้เลือกใช้น้ำมันเครื่องมาตรฐาน API CJ-4 หรือ CK-4   จะช่วยลดเขม่า มีความต้านทานต่อการเกิดออกซิเดชันสูง (ฟิล์มน้ำมันมีความเสถียรของความหนืดสูง) ทำให้ไม่เสื่อมสภาพง่ายแม้เคริ่องจะร้อนจัด  สามารถปกป้องเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี  สะอาดไม่แพ้รถที่อุด EGR เลย


                                                                                                       Picture from Gemini

        นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับรถบรรทุก รถบัส หรือรถยนต์ที่ใช้งานหนัก เช่น การวิ่งทางไกล หรือการบรรทุกหนัก อีกด้วย


วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2567

รถไมล์หลายแสนกิโล ต้องเพิ่ม-เปลี่ยนเบอร์น้ำมันเครื่องไหม


   

         เป็น ความเชื่อ ที่คนเข้าใจผิดกันเยอะ ว่าต้องเพิ่มเบอร์ ตามกิโลที่มากขึ้น  แต่ ความจริง คือ หากเครื่องยนต์รถยังปรกติดี  ฟิตแน่น วิ่งหลายพันกิโล แล้ว น้ำมันเครื่องไม่หาย (ดูจากไม้วัดน้ำมันเครื่อง) ก็ไม่ต้องเปลี่ยนครับ เพราะ การใช้เบอร์เดิมตามคู่มือรถมีประโยชน์  ดังนี้


1.ประหยัดเชื้อเพลิงกว่า 

เพราะการเพิ่มเบอร์น้ำมันเครื่องให้สูงขึ้น ก็เท่ากับว่า เรากำลังเพิ่มความข้นของน้ำมันเครื่อง

เช่น   0W20 ----> เป็น   0W30 ,5W30 ,10W30 

หรือ  0W30,5W30,10W30 ----> เป็น   0W40, 5W40 ,10W40 ,15W40

หรือ  0W40, 5W40 ,10W40 ,15W40----- เป็น   20W50, 15W50  

ยิ่งข้นหนืด = รถอืด    ทำให้ต้องกดคันรันเร่งมากขึ้น ซึ่ง เปลืองน้ำมันกว่านั่นเอง


2.ถนอมเครื่อง มากกว่า

 ความข้นที่มากจะทำให้หัวฝักบัวฉีดได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก  โทรมไวกว่า


3.ประหยัดเงิน มากกว่า

น้ำมันเกรดกึ่งสังเคราะห์ราคาอาจต่างกันไม่มาก  แต่ถ้าเป็นเกรดสังเคราะห์แท้  จะห่างชัดเลย โดยเฉพาะรถอีโคคาร เช่น มาร์ช อเมร่า มิราจ สวิฟ ซิตี้ 1.0 เทอรโบ  เป็นต้น ซึ่งเบอร์ 0W20 ราคาชุดนึงมักไม่ถึง 1,000 บาท  แต่พอเปลี่ยนเป็น 0W30,5W30  ราคาจะเริ่มที่ 14XX ขึ้นไป

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

น้ำยาหล่อเย็นฮอนด้า สีฟ้ากับเขียว เลือกอะไรดี ?

                                                                picture by copilot


        ตามหลักแล้ว ให้ใช้ตามสีเดิมที่รถใช้อยู่ครับ  ไม่ควรปนสี เพราะเคมีคนละสูตรกัน  ถ้าหากอยากปลี่ยนสี ต้องถ่ายของเดิมออกให้หมด แล้วเริ่มใหม่ได้เลย

                                                     ภาพตัวอย่าง น้ำยาหล่อเย็นฮอนด้าเขียว

        โดยทั่วไปแล้วรถฮอนด้า สีเขียว Type-1 มักใส่กับรถปีเก่ากว่า 2000 ลงมา มีอายุการใช้งาน 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตร ของแท้ มีขาย 2 ขนาด คือ 1 ลิตรกับแกลอน 4 ลิตร 

                                                    
                                                    ภาพตัวอย่าง น้ำยาหล่อเย็นฮอนด้าฟ้า

            ส่วนสีฟ้า Type-2 มักใช้กับรถปี 2001 ขึ้นไป มีอายุการใช้งาน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร ของแท้ มีขาย 1 ขนาดเท่านั้น คือ 1 ลิตร 


ปล. * น้ำยาหล่อเย็นฮอนด้าจะเป็นแบบผสมพร้อมใช้ (Pre Mix) ห้ามผสมน้ำเปล่าเพิ่มนะ

** กรณี ลืมจำไม่ได้ว่าใช้น้ำยามานานแค่ไหนแล้ว  ให้สังเกตุสี ว่ายังเข้มหรือไม่ ถ้าจางออกไปทางใส ให้ถ่ายใหม่ได้เลย

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

แบตเตอร์รี่เสีย !! ซื้อที่ศูนย์หรือร้านข้างนอก ดี ?

         หากเทียบกันที่แบตเตอร์รี่เบอร์/เสปคขนาด เดียวกันแล้ว  แบตเตอร์รี่ร้านข้างนอก ที่ขายจะได้ แอมป์ กับ CCA (ค่าแรงสตาท์) สูงกว่าที่ศูนย์ครับ เนื่องจากเหตุผลทางกฎหมาย ทำเหมือนของแท้ที่ติดรถเลยไม่ได้  ทางโรงงานผลิตแบตเตอร์รี่จึง  แก้ปัญหาด้วยการ อัพเสปค เพิ่มกำลังแบตเตอร์รี่ขึ้นแทนครับ


ภาพตัวอย่าง  แบตเตอร์รี่ทดแทนของรถ City 1.0 Turbo




ภาพตัวอย่าง  แบตเตอร์รี่ติดรถ City 1.0 Turbo

        นอกจากกำลังไฟที่ได้มากกว่าแล้ว  ยังมีข้อดีที่ราคาถูกกว่า และ แบตสดใหม่กว่า เนื่องจาก การขายไวกว่า เพราะเเบตเตอร์รี่ เบอร์นึงจะใส่ได้กับรถได้หลายรุ่น  ทำให้สินค้าหมุนเวียนเร็วกว่าครับ




วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

วิธีอ่านเบอร์แบตเตอร์รี่

 เบอร์แบตนั้น  สำคัญไฉน  ดูยังไง  บทความนี้  มีคำตอบครับ

        มาเริ่มที่ของง่ายก่อนเลย  นั่นคือ แบตเตอร์รี่ขั้วจมหรือไซต์ยุโรป  ลักษณะเบอร์ จะมีคำว่า DIN หรือ LN นำหน้า ตามด้วยขนาดแอมป์ และตำแหน่งขั้ว ซ้าย/ขวา  L/R  ครับ

                                                    ภาพตัวอย่าง เเบตเตอรี่ขั้วจม 1

    และเเบตเตอรี่ขั้วจมนี้ ยังมีอีกแบบ คือ แบบเลข 5 หลัก เหมือนภาพตัวอย่างด้านล่างนี้    โดยพิมพ์ว่า  57539  ซึ่งเลขหลักที่ 2-3 จะเป็นความจุ แอมป์

                                                     ภาพตัวอย่าง เเบตเตอรี่ขั้วจม 2


            ต่อมาจะเป็นเเบตเตอรี่ขั้วลอยครับ ดู ครั้งแรก จะแยกยาก  ดูมากมาก  จะยากแยก  เพราะเลขจะแปลกๆ แล้วแต่บริษัทแบตเตอร์รี่เขาจะพิมพ์ครับ  ซึ่งทำให้เข้าใจกันผิดกันเยอะ  เกี่ยวกับแอมป์ Amp

ภาพตัวอย่าง เเบตเตอรี่รถกะบะ 1

ยากเพราะว่า เบอร์แบตเขาจะพิมพ์มา 2 แบบ คือ 1.เบอร์ของบริษัท ในที่นี้ คือ MFX190 ซึ่งมีไว้ใช้เทียบความแรงเฉพาะยี่ห้อ GS เท่านั้น  ส่วน 2.เบอร์สากล JIS แบบใหม่ คือ 105D31 ซึ่งแบบนี้จะดูง่าย และสามารถนำไปเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ได้อีกด้วย เลขมากกว่าไฟก็แรงกว่าครับ


ภาพตัวอย่าง เเบตเตอรี่รถกะบะ 2

ลองมาดูอีกสักตัวอย่างครับ 1.เบอร์ของบริษัท ในที่นี้ คือ S-1500  ส่วน 2.เบอร์สากล คือ 115D31 ซึ่งเมื่อเทียบกับตัวอย่างแรกแล้ว 105D31  ค่าไฟแรงสตาท FB จะมากกว่าครับ  ส่วนความจุ AH แอมป์นั้น จะเท่ากันเลย นั่นคือ 90 แอมป์

                                                    ภาพตัวอย่าง เเบตเตอรี่รถกะบะ 3
            
            ส่วนภาพนี้ จะเป็นเบอรแบบที่ 3.เบอร์ JIS (Japanese Industrial Standard) แบบเก่า  ไม่ค่อยได้เจอแล้ว  และเป็นเบอร์ที่ทำให้คนเข้าใจผิดกันเยอะสุด  จากภาพตัวอย่างที่ 3 เบอร์เขียนว่า NS100 ขนาดจริงแค่ 70 แอมป์ ไม่ใช่ 100 แอมป์


** สรุป ตัวเลขเบอร์แบตเตอร์รี่ขั้วลอย ทั้ง 3 แบบ ไม่ใช่ ความจุแอม นะ แค่มีความสัมพันธ์ แบบ เส้นบางๆ เท่านั้น